ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

โครงสร้างของโลก




โลกของเรามีอายุประมาณ 4,600 ล้านปี โดยในช่วงแรกทีโลกถือกำเนิดขึ้นนั้นยังไม่มีสิ่งมีชีวิตบนโลก ซึ่งมนุษย์เราเริ่มถือกำเนิดบนโลกเมื่อประมาณ 0.003 ล้านปี
        โลกของเราก่อกำเนิดจากการรวมตัวของอนุภาคจำนวนมากภายใต้แรงโน้มถ่วงมหาศาล จากอนุภาคเล็กๆ เป็นมวลขนาดใหญ่ขึ้นจนกลายเป็นดาวเคราะห์ในที่สุด ซึ่งโลกของเราก็เป็นดาวเคราะห์ดวงหนึ่งที่ได้ก่อกำเนิดขึ้น โดยมีรูปร่างลักษณะกลมแป้นคล้ายผลส้มเขียวหวาน ส่วนบนและส่วนล่างที่เป็นขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้จะแบนลงเล็กน้อย มีเส้นผ่านศูนย์กลางเฉลี่ยประมาณ 12,700 กิโลเมตร นักวิทยาศาสตร์แบ่งโครงสร้างของโลกจากชั้นบรรยากาศไปสู่แก่นโลก ดังภาพ





ภาพแสดงโครงโครงสร้างของโลกจากชั้นบรรยากาศไปสู่แก่นโลก
 







                       
 




โครงสร้างของโลก ประกอบด้วย 3 ชั้น ได้แก่
        1. ชั้นเปลือกโลก (crust) ส่วนที่เป็นผิวด้านนอกที่ปกคลุมโลก มีความหนาประมาณ 5-70 กิโลเมตร ส่วนที่บางที่สุดของชั้นเปลือกโลกอยู่ที่มหาสมุทรแปซิฟิกทางตะวันออกของฟิลิปปินส์ และส่วนที่หนาที่สุดอยู่ที่แนวยอดเขา ชั้นเปลือกโลกแบ่งเป็น 2 บริเวณ คือ
               1.1 เปลือกโลกภาคพื้นทวีป (Continental crust) หมายถึง ส่วนที่เป็นแผ่นดินทั้งหมด ส่วนใหญ่เป็นหินแกรนิต มีองค์ประกอบเป็น ซิลิกอน อะลูมิเนียม และออกซิเจน มีสีจาง เรียกหินชั้นนี้ว่า หินไซอัล (sial) ผิวนอกสุดประกอบด้วยดิน และหินตะกอน
               1.2 เปลือกโลกใต้มหาสมุทร (Oceanic crust) หมายถึง ส่วนของเปลือกโลกที่ปกคลุมด้วยน้ำ ส่วนใหญ่เป็นหินบะซอลต์ มีองค์ประกอบเป็น มีเหล็ก แมกนีเซียม ซิลิกอน มีสีเข้ม เรียกหินชั้นนี้ว่า หินไซมา (sima) ติดต่อกับชั้นหิน โดยที่เปลือกโลกใต้มหาสมุทรมีความหนาแน่นกว่าเปลือกโลกภาคพื้นทวีป


ภาพแสดงการเคลื่อนที่หมุนวนด้วยการพาความร้อน (Convection) อยู่ภายในโลก



        2. ชั้นเนื้อโลก (mantle) ส่วนมากเป็นของแข็งที่อยู่ถัดลงไปจากชั้นเปลือกโลก มีความลึกประมาณ 2,900 กิโลเมตร ตอนบนของเนื้อโลกอยู่ติดกับเปลือกโลกเป็นหินแข็งแต่เปราะจนถึงตอนบนของแก่นโลก    เป็นหินหนืด ร้อนจัด ประกอบด้วยธาตุเหล็ก ซิลิคอน และอะลูมิเนียม แบ่งเป็น 3 ชั้น คือ

              
  2.1 ชั้นเนื้อโลกส่วนบน (Uppermost sphere) มีสถานะเป็นของแข็ง เป็นฐานรองรับเปลือกโลกทวีปและเปลือกโลกมหาสมุทร เป็นหินที่เย็นตัวแล้;บางส่วนมีรอยแตกเนื่องจาก ความเปราะ ชั้นเนื้อโลกส่วนบนกับชั้นเปลือกโลกรวมกันเรียกว่า ธรณีภาค (lithosphere) 
ธรณีภาคมีความหนาประมาณ 100 กิโลเมตรนับจากผิวโลกลงไป

          
     2.2 ชั้นฐานธรณีภาค (asthenosphere) มีลักษณะเป็นของแข็งเนื้ออ่อน อุณหภูมิที่สูงมากทำให้แร่บางส่วนหลอมละลายเป็นหินหนืดหรือที่เรียกว่า แมกมา (Magma) เคลื่อนที่หมุนวนด้วยการพาความร้อน (Convection) อยู่ภายในโลกอย่างช้าๆ ตลอดเวลา เนื่องจากการหมุนรอบตัวเองของโลก
               2.3 ชั้นเนื้อโลกชั้นล่างสุด (Lower mantle) เป็นชั้นที่เป็นของแข็งร้อนแต่แน่นและหนืดกว่าตอนบน มีองค์ประกอบส่วนใหญ่เป็นเหล็ก แมกนีเซียม และซิลิเกท


        3. ชั้นแก่นโลก (core) คือส่วนที่อยู่ใจกลางของโลก มีความหนาแน่นมาก องค์ประกอบด้วยเหล็กและนิกเกิลเป็นส่วนใหญ่ โดยมีรัศมีประมาณ 3,470 กิโลเมตร แบ่งเป็น 2 ชั้น คือ
               3.1 แก่นโลกชั้นนอก (Outer core) เคลื่อนที่หมุนวนด้วยการพาความร้อน (Convection)          เชื่อว่าประกอบด้วยสารเหลวร้อนของโลหะเหล็กและนิกเกิลเป็นส่วนใหญ่ มีความร้อนสูงมาก
               3.2 แก่นโลกชั้นใน (Inner core) มีส่วนประกอบเหมือนแก่นโลกชั้นนอกแต่อยู่ในสภาพแข็ง เนื่องจากมีความดันและอุณหภูมิสูงมาก อาจสูงถึง 6,000 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นชั้นที่มีอุณหภูมิสูงที่สุด
 


ภาพแสดงโครงสร้างของโลก

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ห้องเรียนในศตวรรษที่ 21

ห้องเรียนในอนาคตแห่งศตวรรษที่ 21               ในปัจจุบัน การเรียนการสอนในโรงเรียนไทยจะเน้นการเรียนในวิชาต่างๆ โดยใช้สาระวิชาและมาตรฐานสาระการเรียนรู้เป็นตัวควบคุมพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียนด้วยตัวชี้วัดหรือผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง การสอนของครูไทยโดยส่วนมากจะเน้นการเรียนการสอนในห้องเรียน และใช้เป็นตัววัดผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาด้านวิชาการ ซึ่งสิ่งที่ขาดหายไปคือการพัฒนาศักยภาพของผู้เรียน การพัฒนาคุณค่าที่จะส่งผลต่อการเรียน การดำเนินชีวิต และการทำงานในอนาคต                 ดังนั้น ห้องเรียนในศตวรรษที่ 21 จึงเป็นที่สนใจในสถาบันการศึกษาทั่วทั้งโลก ซึ่งจะมีการปรับปรุงการเรียนการสอนอย่างบูรณาการ และมี นวัตกรรมใหม่ๆ ทางด้านเทคโนโลยี โดยการใช้ระบบเครือข่ายสังคมออนไลน์ (Socail network) มาสนับสนุนการเรียนรู้ และการบริหารจัดการทางด้านวิชาการ บุคคล งบประมาณ และการบริหารทั่วๆ ไปเพื่อพัฒนาคุณภาพเด็กยุคใหม่ด้วยสารสนเทศรอบด้าน ห้องเรียนแห่งอนาคตผู้เรียนได้เรียนรู้อะไร? ความคิดสร้างสรรค์ หรือจินตนาการทางด้านควา...

ความหมายของนวัตกรรมการศึกษา

      นวัตกรรมการศึกษา หมายถึง แนวคิด ทฤษฎี สิ่งประดิษฐ์ หรือการกระทำสิ่งใหม่ๆที่ช่วยเข้ามาแก้ไขปัญหา และพัฒนาทางการศึกษาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น